Skip to main content

วัยทำงานควรระวัง 4 ปัจจัยเสี่ยง หลอดเลือดในสมองตีบ

การมีสุขภาพที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ และการจะมีสุขภาพที่ดีได้นั้นต้องเริ่มต้นจากการดูแลตัวเองโดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง และมักหลงลืมเรื่องสุขภาพ อาการหลอดเลือดสมองตีบนั้นจึงถือเป็นภัยเงียบของคนวัยทำงาน ความน่ากลัวของโรคนี้คือ หลายคนไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้ามาก่อนเลย แถมยังเป็นได้ทุกเพศทุกวัยไม่เกี่ยงว่าจะต้องเป็นคนสูงอายุเท่านั้น ทีนี้เรามาดูปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองกันค่ะ



1. ไม่ค่อยออกกำลังกาย
อย่างที่เรารู้กันดีอยู่การออกกำลังกายนั้นจะช่วยลดไขมันที่ไม่ดีในร่างกายเรา การที่เราไม่ออกกำลังกาย จะทำให้เสี่ยงต่อโรคนี้เพราะไขมันที่เกาะสะสมอยู่ตามผนังของเส้นเลือด ทำให้เป็นอุปสรรคกีดขวางการลำเลียงเลือดไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย รวมถึงสมองด้วย

2. สูบบุหรี่จัด
คนวัยทำงานมักจะบอกว่าการสูบบุหรี่จะช่วยทำให้คลายเครียดได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ในบุหรี่มีสารนิโคตินและคาร์บอน ทำให้ประมาณออกซิเจนที่ร่างกายได้รับลดลง และยังเป็นตัวที่ทำลายผนังของหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดเกิดการแข็งตัว มีการค้นพบว่าสูบบุหรี่เพียงอย่างเดียวก็ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองมากถึง 3.5%

3. รีบกินแต่ไม่เลือกกิน
การที่เราทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์บ่อยครั้งเพื่อความสะดวกรวดเร็ว หรือใช้ความอร่อยเป็นเครื่องมือคลายเครียดโดยไม่ได้เลือกว่าอาหารที่กินเข้าไปนั้นดีหรือไม่ดีต่อร่างกาย สิ่งที่ตามมาก็คือ โรคอ้วน บ่อเกิดของโรคต่างๆร วมไปถึงโรคความดันโลหิตสูง และเจ้าความดันโลหิตสูงนี่เองที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โดยผู้ที่มีความดันโลหิตสูงจะมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้มากกว่าคนปกติหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

4. เครียด ไม่พักผ่อน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนต้องทำงานเพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูตัวเอง ครอบครัว และคนที่รัก กลายเป็นแรงผลักให้เราต้องทุ่มเทกับงานจนไม่มีเวลาเหลือมาดูแลตัวเอง สมองคิดแต่เรื่องงาน ชีวิตเต็มไปด้วยความเครียด แถมยังหามรุ่งหามค่ำจนไม่ได้พักผ่อน เวลานอนแทบไม่มี ร่างกายย่อมอ่อนแอและยังส่งผลต่อความดันโลหิตสูงเช่นกัน

โรคเส้นเลือดในสมองตีบนั้นตรวจสอบพฤติกรรมการใช้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัดเช่นเค็มเป็นหลัก ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น แขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดลำบาก เวียนศีรษะ มองเห้นภาพซ้อน ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดด้วยนะคะ


แหล่งที่มา manulife.co.th/4-risk-factors-for-stroke-symptoms/

Comments

Popular posts from this blog

Stroke | โรคเส้นเลือดในสมองตีบ และ เส้นเสื้อในสมองแตก ต่างกันยังไงนะ?

           “โรคหลอดเลือดสมอง” (Stroke) เกิดขึ้นเมื่อสมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจาก เส้นเลือดในสมองตีบ หรือเส้นเลือดสมองแตก เป็นเหตุให้เนื้อเยื่อในสมองนั้นถูกทำลายลง ส่งผลให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก ส่งผลให้เซลล์สมองถูกทำลายเสียหาย หากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีชีวิตอยู่ก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ได้แก่ อัมพฤกษ์ อัมพาต นั่นเอง แบ่งเป็น 2  ประเภท คือ โรคหลอดเลือดสมองตีบ(Ischemic Stroke)  พบได้ประมาณ 70–85% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โรคหลอดเลือดสมองแตก(Hemorrhagic Stroke)  ทำให้มีเลือดออกมาอยู่ในเนื้อสมอง หรือเยื่อหุ้มสมอง พบได้ประมาณ 15–30% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โรคหลอดเลือดสมองตีบ                 ทำให้เซลล์สมองและเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ ขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผนังหลอดเลือด เช่น ไขมันและเกล็ดเลือด มาเกาะที่ผนังหลอดเลือดหรือมีการสร้างชั้นของผนังเซลล์หลอดเลือดที่ผิดปกติ ทำให้ผนังหลอดเลือดหนาและเสียความยืดหย...

รู้ก่อนอันตรายถึงชีวิต 5 สัญญาณอันตราย เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบ

โรคเส้นเลือดในสมองตีบ  นั้นจัดว่าเป็นภัยเงียบที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากอาการที่มักไม่แสดงออกอย่างเด่นชัด ไม่มีการเจ็บป่วยหรือแสดงอาการล่วงหน้า ซึ่งอันตรายมากในบางรายอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันทีหรือ เป็น "อัมพฤกษ์ - อัมพาต" ได้ ทีนี้เรามาดูสัญญาณอันตรายเสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบกันค่ะ เพื่อจะได้ป้องกันก่อนจะสายเกินแก้ หลอดเลือดในสมองตีบ เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดสมองอย่างหนึ่ง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง สิ่งที่ทำให้เส้นเลือด หรือหลอดเลือดตีบ คือการที่มีลิ่มเลือดเข้าไปอุดตันในเส้นเลือด หรืออาจจะมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นในหลอดเลือดสมอง และขยายใหญ่ขึ้นจนอุดตันเส้นเลือดในสมองหรือทำให้เส้นเลือดในสมองตีบจนเลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก ส่งผลให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก ทำให้ให้เซลล์สมองถูกทำลายเสียหาย อาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตและอาจเสียชีวิตได้ สัญญาณอันตราย เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลัน หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 1. มีอาการชา หรืออ่อนแรงที่ใบหน้า และ/หรือบริเวณแขนขาครึ่งซีกของร่างกาย 2. พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ขยับปากได้ไม่ปกติ น้ำลายไหล กลืนลำบาก ...

ข้อแนะนำก่อนซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตมาใช้ที่บ้าน สำหรับผู้สูงอายุ

              โรคความดันโลหิตสูง เป็นอีหนึ่งโรคที่น่ากลัวสำหรับผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป โดยค่าความดันที่อยู่ในเกณฑ์ความดันโลหิตสูง ต้องมีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 140-159 (ตัวบน) หรือ 90-99 ตัวล่าง ซึ่งความดันโลหิตนั้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา  เครื่องวัดความดันโลหิต จึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ สำหรับผู้สูงอายุที่ควรมีไว้ติดบ้าน เพื่อตรวจวัดความดันของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากพบความผิดปกติจะได้รักษาอย่างทันท่วงทีนั่นเองค่ะ การเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตสำหรับใช้ที่บ้าน 1. ควรเลือกใช้เครื่องวัดแบบดิจิตอล เพราะสะดวกและใช้งานง่ายสำหรับผู้สูงอายุค่ะ 2. สายรัดแขนสามารถใส่ได้ง่าย การเลือกเครื่องวัดความดันที่มีสายรัดแขนซึ่งสวมใส่ได้ด้วยตนเองนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากทำให้ผู้วัดความดันสามารถทราบค่าความดันโลหิตของตนเองได้ แม้จะอยู่ลำพังค่ะ 3. มีความแม่นยำสูงความแม่นยำสูงจะทำให้การวินิจฉัยโรคของแพทย์เป็นไปอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การรักษาโรคสะดวกและง่ายดายกว่าเดิม 4. เลือกเครื่องวัดความดันโลหิตที่ผ่านการรับรอง...