Skip to main content

การเตรียมความพร้อมก่อนวัดความดันโลหิตเองที่บ้าน

               ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุหลักอันดับหนึ่งของอัตราการเสียชีวิตทั่วโลก โดยภาวะความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคทางหลอดเลือดต่าง ๆ ดังนั้นการตรวจพบภาวะความดันโลหิตสูงและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นสามารถป้องกันโรคต่าง ๆได้อย่างทันท้วงที ซึ่งปัจจุบันเราสามารถตรวจวัดความดันได้เองที่บ้านโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลบ่อยๆแล้ว โดยการใช้เครื่องวัดความดันนั่นเอง ไปดูการเตียมความพร้อมและวิธีใช้เครื่องวัดความดันเองที่บ้านกันค่ะ



การเตรียมความพร้อม
  • การวัดความดันโลหิตด้วยตนเองอาจต้องทำในที่เงียบ ๆ หากจำเป็นต้องฟังเสียงหัวใจด้วย
  • ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะการปวดปัสสาวะอาจส่งผลต่อค่าระดับความดันโลหิต
  • หากมีการสูบบุหรี่หรือการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนหน้า ควรนั่งพักก่อนวัดความดันอย่างน้อย 1/2 ชั่วโมง
  • พับแขนเสื้อขึ้น หากสวมเสื้อคลุมแขนยาวรัดแขนควรถอดออกก่อน
  • ทำการวัดความดัน โดยกดปุ่มที่เครื่องเพื่อเริ่มวัดได้ทันที และรอให้แรงดันที่เครื่องคลายตัวลงจนเป็นปกติ
ผลการวัดความดันโลหิต
ระดับความดันโลหิตปกติจะมีค่าตัวเลขบน (ค่าความดันโลหิตซิสโตลิก) ไม่เกินกว่า 120 และมีค่าตัวเลขล่าง (ความดันโลหิตไดแอสโตลิก) ไม่เกินกว่า 80 เขียนเป็น 120/80 มิลลิเมตรปรอท
  • ความดันโลหิตปกติ คือ 90 - 119 / 60 - 79 มม.ปรอท
  • ความดันโลหิตในผู้มีแนวโน้มจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง คือ 120 - 139 / 80 - 89 มม.ปรอท
  • โรคความดันโลหิตสูงระยะ 1 คือ ความดันโลหิตอยู่ในช่วง 140 - 159 / 90 - 99 มม.ปรอท
  • โรคความดันโลหิตสูงระยะ 2 คือ ความดันโลหิตอยู่ในช่วง ตั้งแต่ 160/100 มม.ปรอทขึ้นไป
  • โรคความดันโลหิตสูงที่ต้องพบแพทย์ใน 24 ชั่วโมง คือ ความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 180/ 110 มม.ปรอทเป็นต้นไป เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อาจจากโรคหัวใจล้มเหลว สมองสูญเสียการทำงาน และ/หรือไตล้มเหลว
  • โรคความดันโลหิตสูงที่ต้องพบแพทย์ฉุกเฉิน คือความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 220/140 มม.ปรอทขึ้นไป เพราะเป็นอันตรายถึงชีวิต (ตาย) ได้ จากการทำงานล้มเหลวของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง และไต
สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการอะไร จนกว่าจะเกิดโรคแทรกแล้วการติดตามจึงจำเป็นต้องวัดความดันโลหิตอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูงและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และรักษาได้อย่างทันท้วงทีนะคะ

Comments

Popular posts from this blog

รู้ก่อนอันตรายถึงชีวิต 5 สัญญาณอันตราย เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบ

โรคเส้นเลือดในสมองตีบ  นั้นจัดว่าเป็นภัยเงียบที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากอาการที่มักไม่แสดงออกอย่างเด่นชัด ไม่มีการเจ็บป่วยหรือแสดงอาการล่วงหน้า ซึ่งอันตรายมากในบางรายอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันทีหรือ เป็น "อัมพฤกษ์ - อัมพาต" ได้ ทีนี้เรามาดูสัญญาณอันตรายเสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบกันค่ะ เพื่อจะได้ป้องกันก่อนจะสายเกินแก้ หลอดเลือดในสมองตีบ เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดสมองอย่างหนึ่ง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง สิ่งที่ทำให้เส้นเลือด หรือหลอดเลือดตีบ คือการที่มีลิ่มเลือดเข้าไปอุดตันในเส้นเลือด หรืออาจจะมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นในหลอดเลือดสมอง และขยายใหญ่ขึ้นจนอุดตันเส้นเลือดในสมองหรือทำให้เส้นเลือดในสมองตีบจนเลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก ส่งผลให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก ทำให้ให้เซลล์สมองถูกทำลายเสียหาย อาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตและอาจเสียชีวิตได้ สัญญาณอันตราย เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลัน หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 1. มีอาการชา หรืออ่อนแรงที่ใบหน้า และ/หรือบริเวณแขนขาครึ่งซีกของร่างกาย 2. พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ขยับปากได้ไม่ปกติ น้ำลายไหล กลืนลำบาก ...

ปัจจัยเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองตีบ ภัยเงียบเสี่ยงอัมพาต

          โรคที่เกี่ยวกับ หลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่อันตรายและน่ากลัวเป็นอันดับต้นๆ ของคนยุคปัจจุบัน เพราะพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากขึ้นตามลำดับทั้งที่อยู่ในวัยกลางคนเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากนับรวมบรรดาโรคที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทั้งหลายแล้ว ภาวะ เส้นเลือดสมองตีบ หรือแตกนี้พบมากเป็นอันดับ 2 ของโรคที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน (รองจากโรคหัวใจ) ดังนั้นวันนี้ไปดูปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคนี้ เพื่อหาทางป้องกันหรือหลีกเลี่ยงกันค่ะ ปัจจัยเสี่ยงเส้นเลือดในสมองตีบ เพศชาย มีความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดในสมองตีบ รวมไปถึงโรคในตระกูลหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้หญิง อายุที่มากขึ้น ทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพลงไปด้วย ผิวชั้นในของผนังหลอดเลือดด้านในอาจจะหนา หรือแข็งขึ้นจากการที่มีไขมัน หรือหินปูนมาเกาะ ทำให้รูในเส้นเลือดแคบลง เลือดก็ไหลเวียนได้น้อยลง   อยู่ในภาวะพบการแข็งตัวของเลือดเร็วกว่าปกติ ทำให้มีความเสี่ยงของการที่เม็ดเลือดจับตัวกัน หรือเกิดลิ่มเลือดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ เบาหวาน เป็นสาเหตุที่ทำให...

โอเมก้า 3 และ 6 กรดไขมันจำเป็นที่สำคัญ แต่ร่างกายสร้างเองไม่ได้

กรดไขมันจำเป็น …                 เป็นกรดไขมันที่มนุษย์และสัตว์จะต้องรับเข้าสู่ร่างกายเนื่องจากร่างกายต้องการกรดไขมันเหล่านี้ เพื่อให้มีสุขภาพดี แต่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ ดังนั้นจำเป็นต้องได้รับจากอาหารที่ทานเพื่อรักษาสุขภาพให้ปกติ ไปทำความรู้จักกับกรดไขมันจำเป็น โอเมก้า 3, โอเมก้า 6 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆและแหล่งของไขมันชนิดนี้กันค่ะ โอเมก้า 3  คือกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวชนิดหนึ่ง เป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก ร่างกายของคนเราขาดโอเมก้า 3 ไม่ได้ แต่กลับไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ฉะนั้นจึงต้องได้รับจากการทานอาหารที่มีปริมาณโอเมก้า 3 แทน แหล่งอาหารที่มีโอเมก้า 3  พบโอเมก้า 3 ได้จากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น ปลาและอาหารทะเล ถั่วและเมล็ดพืช เช่น เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ วอลนัท เมล็ดฟักทอง ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง โยเกิร์ต น้ำผลไม้ นม น้ำนมถั่วเหลือง หรืออาหารทารกบางอย่าง เป็นต้น ---------------------------------------------------------...