Skip to main content

วิธีใช้เครื่องวัดความดัน และวิธีอ่านค่าความดันโลหิต กรณีวัดเองที่บ้าน

              สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการอะไร จนกว่าจะเกิดโรคแทรกแล้วการติดตามจึงจำเป็นต้องวัดความดันโลหิตอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยได้รับการตรวจความดันโลหิตเบื้องต้นเมื่อเข้ารับการรักษาหรือตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลนั่นเอง แต่ปัจจุบันผู้ป่วยสามารถตรวจวัดความดันได้เองที่บ้านโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลบ่อยๆแล้ว โดยการใช้เครื่องวัดความดัน แบบอัตโนมัติวัดเองที่บ้านได้ซึ่งสะดวกและใช้งานได้ง่าย ไปดูวิธีการใช้งานเครื่องวัดความดันและการอ่านค่าความดันโลหิตกันค่ะ

เตรียมตัวก่อนวัดความดันโลหิต
1. งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ก่อนวัด 30 นาที และควรนั่งพัก 5 นาที ก่อนเริ่มวัด
2. พันผ้าพันแขนให้ถูกต้อง วัดความดันโลหิตที่แขนซ้าย(หรือข้างที่ไม่ถนัด) จากนั้นสวมปลอกแขนที่บริเวณต้นแขน ให้จุดรับสัญญาณอยู่ตรงกลางท้องแขนด้านใน เหนือข้อพับประมาณ 2 - 3 ซม. ติดเทปที่ปลอกแขนให้พอดีกับขนาดแขนไม่หลวมหรือแน่นเกินไป
3. วางแขนที่วัดให้ราบบนโต๊ะ ไม่กำมือ ให้ผ้าพันแขนอยู่ระดับเดียวกับหัวใจ



ข้อมูลเกี่ยวกับความดันโลหิต

ค่าความดันโลหิต (Blood Pressure) คือค่าที่แสดงความดันของโลหิตในร่างกายมี 2 ค่า คือค่าบน (Systolic Pressure) และค่าล่าง (Diastolic Pressure) มีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตรปรอท ค่าบน คือค่าความดันที่อยู่ในหลอดเลือดแดง ขณะที่หัวใจสูบฉีดเลือดอย่างเต็มที่  หลังจากนั้นกล้ามเนื้อหัวใจจะผ่อนคลายชั่วครู่ ให้ค่าแรงดันมีกำลังอ่อนลงที่สุด ซึ่งค่าที่ได้ก็คือ ค่าล่าง นั่นเอง

ค่าความดันโลหิต
  • ความดันโลหิตปกติ คือ 90 - 119 / 60 - 79 มม.ปรอท
  • ความดันโลหิตในผู้มีแนวโน้มจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง คือ 120 - 139 / 80 - 89 มม.ปรอท
  • โรคความดันโลหิตสูงระยะ 1 คือ ความดันโลหิตอยู่ในช่วง 140 - 159 / 90 - 99 มม.ปรอท
  • โรคความดันโลหิตสูงระยะ 2 คือ ความดันโลหิตอยู่ในช่วง ตั้งแต่ 160/100 มม.ปรอทขึ้นไป
  • โรคความดันโลหิตสูงที่ต้องพบแพทย์ใน 24 ชั่วโมง คือ ความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 180/ 110 มม.ปรอทเป็นต้นไป เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อาจจากโรคหัวใจล้มเหลว สมองสูญเสียการทำงาน และ/หรือไตล้มเหลว
  • โรคความดันโลหิตสูงที่ต้องพบแพทย์ฉุกเฉิน คือความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 220/140 มม.ปรอทขึ้นไป เพราะเป็นอันตรายถึงชีวิต (ตาย) ได้ จากการทำงานล้มเหลวของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง และไต

              การติดตามความดันโลหิตโดยวิธีวัดความดันเองที่บ้าน จะเป็นผลดีทั้งต่อผู้ป่วยด้านการควบคุมไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน และกับผู้ที่ยังไม่เป็นความดันโลหิตสูงในแง่การป้องกัน การตรวจพบภาวะความดันโลหิตสูงและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นสามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง รวมถึงโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตาได้ สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงแนะนำว่าควรมีเครื่องวัดความดันติดบ้านไว้ดีกว่านะคะ

Comments

Popular posts from this blog

Stroke | โรคเส้นเลือดในสมองตีบ และ เส้นเสื้อในสมองแตก ต่างกันยังไงนะ?

           “โรคหลอดเลือดสมอง” (Stroke) เกิดขึ้นเมื่อสมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจาก เส้นเลือดในสมองตีบ หรือเส้นเลือดสมองแตก เป็นเหตุให้เนื้อเยื่อในสมองนั้นถูกทำลายลง ส่งผลให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก ส่งผลให้เซลล์สมองถูกทำลายเสียหาย หากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีชีวิตอยู่ก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ได้แก่ อัมพฤกษ์ อัมพาต นั่นเอง แบ่งเป็น 2  ประเภท คือ โรคหลอดเลือดสมองตีบ(Ischemic Stroke)  พบได้ประมาณ 70–85% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โรคหลอดเลือดสมองแตก(Hemorrhagic Stroke)  ทำให้มีเลือดออกมาอยู่ในเนื้อสมอง หรือเยื่อหุ้มสมอง พบได้ประมาณ 15–30% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โรคหลอดเลือดสมองตีบ                 ทำให้เซลล์สมองและเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ ขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผนังหลอดเลือด เช่น ไขมันและเกล็ดเลือด มาเกาะที่ผนังหลอดเลือดหรือมีการสร้างชั้นของผนังเซลล์หลอดเลือดที่ผิดปกติ ทำให้ผนังหลอดเลือดหนาและเสียความยืดหย...

รู้ก่อนอันตรายถึงชีวิต 5 สัญญาณอันตราย เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบ

โรคเส้นเลือดในสมองตีบ  นั้นจัดว่าเป็นภัยเงียบที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากอาการที่มักไม่แสดงออกอย่างเด่นชัด ไม่มีการเจ็บป่วยหรือแสดงอาการล่วงหน้า ซึ่งอันตรายมากในบางรายอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันทีหรือ เป็น "อัมพฤกษ์ - อัมพาต" ได้ ทีนี้เรามาดูสัญญาณอันตรายเสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบกันค่ะ เพื่อจะได้ป้องกันก่อนจะสายเกินแก้ หลอดเลือดในสมองตีบ เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดสมองอย่างหนึ่ง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง สิ่งที่ทำให้เส้นเลือด หรือหลอดเลือดตีบ คือการที่มีลิ่มเลือดเข้าไปอุดตันในเส้นเลือด หรืออาจจะมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นในหลอดเลือดสมอง และขยายใหญ่ขึ้นจนอุดตันเส้นเลือดในสมองหรือทำให้เส้นเลือดในสมองตีบจนเลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก ส่งผลให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก ทำให้ให้เซลล์สมองถูกทำลายเสียหาย อาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตและอาจเสียชีวิตได้ สัญญาณอันตราย เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลัน หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 1. มีอาการชา หรืออ่อนแรงที่ใบหน้า และ/หรือบริเวณแขนขาครึ่งซีกของร่างกาย 2. พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ขยับปากได้ไม่ปกติ น้ำลายไหล กลืนลำบาก ...

ข้อแนะนำก่อนซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตมาใช้ที่บ้าน สำหรับผู้สูงอายุ

              โรคความดันโลหิตสูง เป็นอีหนึ่งโรคที่น่ากลัวสำหรับผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป โดยค่าความดันที่อยู่ในเกณฑ์ความดันโลหิตสูง ต้องมีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 140-159 (ตัวบน) หรือ 90-99 ตัวล่าง ซึ่งความดันโลหิตนั้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา  เครื่องวัดความดันโลหิต จึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ สำหรับผู้สูงอายุที่ควรมีไว้ติดบ้าน เพื่อตรวจวัดความดันของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากพบความผิดปกติจะได้รักษาอย่างทันท่วงทีนั่นเองค่ะ การเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตสำหรับใช้ที่บ้าน 1. ควรเลือกใช้เครื่องวัดแบบดิจิตอล เพราะสะดวกและใช้งานง่ายสำหรับผู้สูงอายุค่ะ 2. สายรัดแขนสามารถใส่ได้ง่าย การเลือกเครื่องวัดความดันที่มีสายรัดแขนซึ่งสวมใส่ได้ด้วยตนเองนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากทำให้ผู้วัดความดันสามารถทราบค่าความดันโลหิตของตนเองได้ แม้จะอยู่ลำพังค่ะ 3. มีความแม่นยำสูงความแม่นยำสูงจะทำให้การวินิจฉัยโรคของแพทย์เป็นไปอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การรักษาโรคสะดวกและง่ายดายกว่าเดิม 4. เลือกเครื่องวัดความดันโลหิตที่ผ่านการรับรอง...