Skip to main content

ข้อแนะนำก่อนซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตมาใช้ที่บ้าน สำหรับผู้สูงอายุ

              โรคความดันโลหิตสูง เป็นอีหนึ่งโรคที่น่ากลัวสำหรับผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป โดยค่าความดันที่อยู่ในเกณฑ์ความดันโลหิตสูง ต้องมีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 140-159 (ตัวบน) หรือ 90-99 ตัวล่าง ซึ่งความดันโลหิตนั้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เครื่องวัดความดันโลหิตจึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ สำหรับผู้สูงอายุที่ควรมีไว้ติดบ้าน เพื่อตรวจวัดความดันของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากพบความผิดปกติจะได้รักษาอย่างทันท่วงทีนั่นเองค่ะ




การเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตสำหรับใช้ที่บ้าน

1. ควรเลือกใช้เครื่องวัดแบบดิจิตอล เพราะสะดวกและใช้งานง่ายสำหรับผู้สูงอายุค่ะ
2. สายรัดแขนสามารถใส่ได้ง่าย การเลือกเครื่องวัดความดันที่มีสายรัดแขนซึ่งสวมใส่ได้ด้วยตนเองนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากทำให้ผู้วัดความดันสามารถทราบค่าความดันโลหิตของตนเองได้ แม้จะอยู่ลำพังค่ะ
3. มีความแม่นยำสูงความแม่นยำสูงจะทำให้การวินิจฉัยโรคของแพทย์เป็นไปอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การรักษาโรคสะดวกและง่ายดายกว่าเดิม
4. เลือกเครื่องวัดความดันโลหิตที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น CE (European Conformity:CE) หรือเครื่องหมาย UL (Underwriters’ Laboratories :UL) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าเครื่องมือนั้นได้รับการออกแบบและการผลิตที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามข้อบังคับอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป หรือตรวจสอบได้จากเครื่องหมาย มอก.มาตรฐานประเทศไทย เป็นต้น

คำแนะนำในการใช้เครื่องวัดความดันโลหิต
  • ไม่ควรวัดความดันทันทีหลังอาหารมื้อหลัก ควรห่างอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
  • ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่หรือเครื่องก่อนทำการวัด
  • ไม่ควรวัดขณะที่ร่างกายเหนื่อย หมดแรง อ่อนเพลีย หรือมีอารมณ์เครียด
  • ถ้าใช้เครื่องวัดความดันที่ต้นแขน ให้วัดในท่านั่ง วางแขน และข้อศอกบนโต๊ะ จัดระดับให้ผ้าพันต้นแขน หรือผ้าพันข้อมืออยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ
  • ถ้าใช้เครื่องวัดความดันที่ข้อมือ ให้วัดในท่านั่ง วางข้อมือให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ

การเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตสำหรับใช้ในบ้านถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ เพื่อช่วยในการดูแลสุขภาพและสามารถรักษาได้ทันท่วงทีหากความดันมีความผิดปกตินั่นเองค่ะ

Comments

Popular posts from this blog

Stroke | โรคเส้นเลือดในสมองตีบ และ เส้นเสื้อในสมองแตก ต่างกันยังไงนะ?

           “โรคหลอดเลือดสมอง” (Stroke) เกิดขึ้นเมื่อสมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจาก เส้นเลือดในสมองตีบ หรือเส้นเลือดสมองแตก เป็นเหตุให้เนื้อเยื่อในสมองนั้นถูกทำลายลง ส่งผลให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก ส่งผลให้เซลล์สมองถูกทำลายเสียหาย หากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีชีวิตอยู่ก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ได้แก่ อัมพฤกษ์ อัมพาต นั่นเอง แบ่งเป็น 2  ประเภท คือ โรคหลอดเลือดสมองตีบ(Ischemic Stroke)  พบได้ประมาณ 70–85% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โรคหลอดเลือดสมองแตก(Hemorrhagic Stroke)  ทำให้มีเลือดออกมาอยู่ในเนื้อสมอง หรือเยื่อหุ้มสมอง พบได้ประมาณ 15–30% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โรคหลอดเลือดสมองตีบ                 ทำให้เซลล์สมองและเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ ขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผนังหลอดเลือด เช่น ไขมันและเกล็ดเลือด มาเกาะที่ผนังหลอดเลือดหรือมีการสร้างชั้นของผนังเซลล์หลอดเลือดที่ผิดปกติ ทำให้ผนังหลอดเลือดหนาและเสียความยืดหย...

การเตรียมความพร้อมก่อนวัดความดันโลหิตเองที่บ้าน

               ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุหลักอันดับหนึ่งของอัตราการเสียชีวิตทั่วโลก โดยภาวะความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคทางหลอดเลือดต่าง ๆ ดังนั้นการตรวจพบภาวะความดันโลหิตสูงและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นสามารถป้องกันโรคต่าง ๆได้อย่างทันท้วงที ซึ่งปัจจุบันเราสามารถตรวจวัดความดันได้เองที่บ้านโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลบ่อยๆแล้ว โดยการใช้ เครื่องวัดความดัน นั่นเอง ไปดูการเตียมความพร้อมและวิธีใช้เครื่องวัดความดันเองที่บ้านกันค่ะ การเตรียมความพร้อม การวัดความดันโลหิตด้วยตนเองอาจต้องทำในที่เงียบ ๆ หากจำเป็นต้องฟังเสียงหัวใจด้วย ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะการปวดปัสสาวะอาจส่งผลต่อค่าระดับความดันโลหิต หากมีการสูบบุหรี่หรือการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนหน้า ควรนั่งพักก่อนวัดความดันอย่างน้อย 1/2 ชั่วโมง พับแขนเสื้อขึ้น หากสวมเสื้อคลุมแขนยาวรัดแขนควรถอดออกก่อน ทำการวัดความดัน โดยกดปุ่มที่เครื่องเพื่อเริ่มวัดได้ทันที และรอให้แรงดันที่เครื่องคลายตัวลงจนเป็...

วิธีดูแลผู้ป่วยแผลกดทับและป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้น

             แผลกดทับ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและมีความสำคัญในผู้ป่วยอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยที่ต้องนอนติดเตียงหรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เพราะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยซ้ำเติมแหละมีอาการหนักขึ้น อีกทั้งการดูแลรักษายังทำให้ต้องใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การเลือกใช้ ที่นอนลมสำหรับผู้ป่วย  จึงช่วยลดโอกาสหรือความรุนแรงอาการแผลกดทับได้ นอกจากนี้ยังมีวิธีดูแลรักษาตนเองด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะดังกล่าวอีกค่ะ การป้องกันการเกิดแผลกดทับ การเปลี่ยนและจัดท่าผู้ป่วย โดยตามลักษณะของผู้ป่วย โดยยึดเอาความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ได้แก่ 1) ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ และนอนบนเตียง ควรปรับเปลี่ยนท่านอนใหม่ทุก ๆ 2 ชั่วโมง 2) ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ และนั่งบนรถเข็น ควรปรับเปลี่ยนท่านั่งใหม่ทุก ๆ 1 ชั่วโมง 3) ผู้ป่วยที่รู้สึกตัวดีและสามารถช่วยเหลือตนเองได้บ้าง ควรช่วยผู้ป่วยขยับเปลี่ยนท่าด้วยตนเองทุก 15 นาที              นอ...