Skip to main content

การป้องกันการเกิดแผลกดทับ สำหรับผู้ป่วยนอนติดเตียง



            แผลกดทับ คือ การได้รับบาดเจ็บของผิวหนัง เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และกระดูก เป็นผลจากแรงกด หรือแรงกดร่วมกับแรงเลื่อนไถล ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ถูกกดขาดเลือดไปเลี้ยงจนเกิดเป็นแผล พบบ่อยบริเวณกระดูกก้นกบ กระดูกสะโพก/กระดูกเชิงกราน ตาตุ่ม

ใครที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ
แผลกดทับสามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลทุกวัย ผู้มีปัจจัยเสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ผู้สูงอายุที่มีชั้นไขมันใต้ผิวหนังบางลง ผิวหนังเปราะบางฉีกขาดได้ง่าย และบุคคลที่ต้องนอนพักอยู่บนเตียงนานมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย/นอนติดเตียง


การป้องกันการเกิดแผลกดทับ

1. การจัดท่านอน ควรเปลี่ยนท่านอนอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมงเพื่อลดแรงกดนานเกินไปทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ถ้าเปลี่ยนท่านอนแล้วรอยแดงบริเวณผิวหนังไม่หายภายในประมาณ 30 นาที อาจจะพิจารณาให้เปลี่ยนท่านอนได้บ่อยขึ้น

2. การใช้อุปกรณ์ลดแรงกด
2.1 ใช้อุปกรณ์เสริมช่วยลดแรงกด เลือกให้เหมาะสมกับสภาพของบุคคลนั้นเช่น ใช้ที่นอนฟองน้ำหรือที่นอนลมสำหรับผู้ป่วย ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีความเสี่ยง ใช้หมอน ผ้านุ่มๆ หรือเจลรองบริเวณปุ่มกระดูกต่างๆเพื่อลดแรงกดบริเวณปุ่มกระดูกต่างๆของร่างกายเช่น หัวไหล่ ใบหู ข้อศอก ข้อมือ ส้นเท้า
2.2 ลดแรงเสียดทาน การเคลื่อนย้ายหรือเลื่อนตัวผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ ใช้การยกตัวแทนการดึงลากตัว ใช้อุปกรณ์ช่วยในการเคลื่อนย้ายเช่น ผ้ายกตัว แผ่นรองตัว

3. การดูแลผิวหนัง
3.1 ผู้ป่วยที่มีผิวหนังแห้ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่น หลังทำความสะอาดร่างกายควรทาโลชั่น 3-4 ครั้ง / วัน เพื่อป้องกันผิวหนังแตกแห้ง
3.2 ผู้ป่วยที่ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ควรทำความสะอาดทุกครั้ง ที่มีการขับถ่าย และซับให้แห้งอย่างเบามือ
ทาวาสลีน หรือ Zinc paste ให้หนาบริเวณผิวหนังรอบๆทวารหนัก แก้มก้นทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันผิวหนังเปียกชื้น

4. อาหารการกิน การดูแลให้ร่างกายได้รับอาหารครบตามหลักโภชนาการ (อาหารมีประ โยชน์ 5 หมู่) โดยเฉพาะโปรตีน วิตามินซี และดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ผิวหนังยืดหยุ่นค่ะ

นอกจากนี้เราควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายเท่าที่สามารถจะทำได้ เพื่อช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น  และควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยลงจากเตียงหรือที่นอนบ้างก็สามารถช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดเช่นกัน แต่หากแผลกดทับลุกลามเพิ่มขึ้นหรือมีสัญญาณของการติดเชื้อ ควรรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อแพทย์พยาบาลให้การรักษาดูแลที่เหมาะสมต่อไปนะคะ

Comments

Popular posts from this blog

Stroke | โรคเส้นเลือดในสมองตีบ และ เส้นเสื้อในสมองแตก ต่างกันยังไงนะ?

           “โรคหลอดเลือดสมอง” (Stroke) เกิดขึ้นเมื่อสมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจาก เส้นเลือดในสมองตีบ หรือเส้นเลือดสมองแตก เป็นเหตุให้เนื้อเยื่อในสมองนั้นถูกทำลายลง ส่งผลให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก ส่งผลให้เซลล์สมองถูกทำลายเสียหาย หากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีชีวิตอยู่ก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ได้แก่ อัมพฤกษ์ อัมพาต นั่นเอง แบ่งเป็น 2  ประเภท คือ โรคหลอดเลือดสมองตีบ(Ischemic Stroke)  พบได้ประมาณ 70–85% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โรคหลอดเลือดสมองแตก(Hemorrhagic Stroke)  ทำให้มีเลือดออกมาอยู่ในเนื้อสมอง หรือเยื่อหุ้มสมอง พบได้ประมาณ 15–30% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด โรคหลอดเลือดสมองตีบ                 ทำให้เซลล์สมองและเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ ขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผนังหลอดเลือด เช่น ไขมันและเกล็ดเลือด มาเกาะที่ผนังหลอดเลือดหรือมีการสร้างชั้นของผนังเซลล์หลอดเลือดที่ผิดปกติ ทำให้ผนังหลอดเลือดหนาและเสียความยืดหย...

การเตรียมความพร้อมก่อนวัดความดันโลหิตเองที่บ้าน

               ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุหลักอันดับหนึ่งของอัตราการเสียชีวิตทั่วโลก โดยภาวะความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคทางหลอดเลือดต่าง ๆ ดังนั้นการตรวจพบภาวะความดันโลหิตสูงและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นสามารถป้องกันโรคต่าง ๆได้อย่างทันท้วงที ซึ่งปัจจุบันเราสามารถตรวจวัดความดันได้เองที่บ้านโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลบ่อยๆแล้ว โดยการใช้ เครื่องวัดความดัน นั่นเอง ไปดูการเตียมความพร้อมและวิธีใช้เครื่องวัดความดันเองที่บ้านกันค่ะ การเตรียมความพร้อม การวัดความดันโลหิตด้วยตนเองอาจต้องทำในที่เงียบ ๆ หากจำเป็นต้องฟังเสียงหัวใจด้วย ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะการปวดปัสสาวะอาจส่งผลต่อค่าระดับความดันโลหิต หากมีการสูบบุหรี่หรือการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนหน้า ควรนั่งพักก่อนวัดความดันอย่างน้อย 1/2 ชั่วโมง พับแขนเสื้อขึ้น หากสวมเสื้อคลุมแขนยาวรัดแขนควรถอดออกก่อน ทำการวัดความดัน โดยกดปุ่มที่เครื่องเพื่อเริ่มวัดได้ทันที และรอให้แรงดันที่เครื่องคลายตัวลงจนเป็...

วิธีดูแลผู้ป่วยแผลกดทับและป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้น

             แผลกดทับ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและมีความสำคัญในผู้ป่วยอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยที่ต้องนอนติดเตียงหรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เพราะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยซ้ำเติมแหละมีอาการหนักขึ้น อีกทั้งการดูแลรักษายังทำให้ต้องใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การเลือกใช้ ที่นอนลมสำหรับผู้ป่วย  จึงช่วยลดโอกาสหรือความรุนแรงอาการแผลกดทับได้ นอกจากนี้ยังมีวิธีดูแลรักษาตนเองด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะดังกล่าวอีกค่ะ การป้องกันการเกิดแผลกดทับ การเปลี่ยนและจัดท่าผู้ป่วย โดยตามลักษณะของผู้ป่วย โดยยึดเอาความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ได้แก่ 1) ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ และนอนบนเตียง ควรปรับเปลี่ยนท่านอนใหม่ทุก ๆ 2 ชั่วโมง 2) ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ และนั่งบนรถเข็น ควรปรับเปลี่ยนท่านั่งใหม่ทุก ๆ 1 ชั่วโมง 3) ผู้ป่วยที่รู้สึกตัวดีและสามารถช่วยเหลือตนเองได้บ้าง ควรช่วยผู้ป่วยขยับเปลี่ยนท่าด้วยตนเองทุก 15 นาที              นอ...