Skip to main content

คุณสมบัติ 5 ของที่นอนลมสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ช่วยป้องกันแผลกดทับ

             ปัญหาด้านสุขภาพของคนใกล้ตัวที่กลายเป็นผู้ป่วยด้วยโรคที่ทำให้ไม่สามารถขยับตัวหรือช่วยเหลือตัวเองได้ การนอนนิ่งๆ ด้วยระยะเวลานานๆ ย่อมเป็นผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยมากขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้ที่นอนลมสำหรับผู้ป่วย จึงจำเป็นเพราะจะช่วยลดโอกาสหรือความรุนแรงอาการแผลกดทับได้ ไปทำความรู้จักกับที่นอนลมและประโยชน์ของมันกันค่ะว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง



ที่นอนลม คืออะไร....เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงกดและกระจายแรงกดทับโดยใช้แรงปั๊มลมจากเครื่องปั๊มไฟฟ้า ปั๊มทำงานแบบสลับกับการยุบพองของที่นอนลมต่อเนื่องตลอดเวลา ทำให้มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติเป็นจังหวะ ทำให้ร่างกายไม่ถูกกดทับบริเวณใดบริเวณหนึ่งนาน ๆ จึงช่วยลดโอกาสการเกิดหรือช่วยลดความรุนแรงของแผลกดทับได้

คุณสมบัติที่ดีของที่นอนลมสำหรับผู้ป่วย

1. มีความเหนียว หนา รับน้ำหนักได้ดี ที่นอนลมมีหลากหลายขนาดเพื่อจะได้เลือกให้เหมาะกับขนาดตัวของผู้ป่วยแต่ละคน เป็นที่นอนที่ทำจาก PVC อย่างดี มีความเหนียวและหนาเป็นพิเศษ เมื่อผู้ป่วยนอนนานๆ ที่นอนลมอาจจะยุบไปบ้างหรือการที่น้ำหนักตัวผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลง

2. ป้องกันการเกิดแผลกดทับได้ดี ผู้ป่วยที่มีปัญหาและอาการที่เกิดจากกระดูก ไม่ว่าจะเป็นกระดูกทับเส้นประสาทหรือเป็นโรคที่ไม่สามารถขยับตัวหรือลุกไปไหนมาไหนเพื่อช่วยเหลือตัวเอง ที่นอนลมช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องนอนแช่อยู่กับที่นอนนิ่งๆ นานๆ ช่วยป้องกันการเกิดแผลจากการกดทับได้

3. เคลื่อนย้ายสะดวก ด้วยขนาดไม่ใหญ่เกินไปและน้ำหนักเบาของที่นอนลม ทำให้จัดเก็บได้สะดวก เมื่อต้องการเคลื่อนย้ายไปไหนก็ทำได้ง่าย สะดวก เพราะผู้ป่วยจะต้องมีการเปลี่ยนสถานที่ หรือย้ายที่นอนพักผ่อนบ้าง เพื่อจะได้ไม่จำเจนอนแต่ที่เดิมๆ

4. ขับถ่ายสะดวกกับที่นอนลมที่มีช่องเปิดในตัว ที่นอนลมได้มีการออกแบบสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ให้ส่วนกลางของที่นอนนั้นจะสามารถเปิดช่องได้ เพื่อไว้สำหรับใส่ถังรองรับปัสสาวะและอุจจาระผู้ป่วย ทำให้สะดวกกับทั้งผู้ป่วยเองและทำให้ผู้ดูแลจัดเก็บและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น


         ดังนั้นใครที่มีคนในครอบครัวที่ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ที่นอนลมก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่คุณรัก ป้องกันง่ายๆด้วยที่นอนลมสำหรับผู้ป่วยนะคะ

Comments

Popular posts from this blog

เครื่องมือแพทย์สามัญประจำบ้าน ที่ควรมีติดบ้านไว้

               ถ้าพูดถึงยาสามัญประจำบ้านเราคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วใช่ไหมคะ เพราะเป็นยาที่ควรจะมีติดบ้านเพื่อใช้ในกรณีเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล แต่ถ้าเป็น  เครื่องมือแพทย์ สามัญประจำบ้าน หลายๆคนอาจจะยังไม่คุ้นและมองว่าไกลตัว ไม่ต้องมีติดบ้านก็ได้ แต่จริงๆแล้วก็มีความสำคัญพอๆกับยาสามัญเลยนะคะ ซึ่งเครื่องมือแพทย์ที่ควรมีติดบ้านก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของสมาชิกในครอบครัวนั้นด้วย ควรมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ เครื่องชั่งน้ำหนัก  ใช้ได้กับสมาชิกทุกคนในบ้าน ช่วยให้ทราบการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อ้วนขึ้น ผอมลง ควรควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือควรทานอาหารให้มากขึ้น ปรอทวัดไข้  เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ ตัวนี้จำเป็นอย่างยิ่งกับบ้านที่มีสมาชิกเป็นเด็กเล็กหรือทารก ใช้วัดอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อเช็คว่าปกติหรือไม่ มีไข้หรือป่าว ไข้สูงระดับที่ต้องพบแพทย์หรือยัง เครื่องวัดความดัน  จำเป็นอย่างมากในบ้านที่มีผู้สูงอายุ เป็นการตรวจร่างกายที่สามารถให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเบื้องต้น ซึ่งทำได้ภายในเวลารวดเร็วโดยไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใด ๆ เครื่อง

ความดันต่ำ ความดันสูง ดูยังไงความดันเท่าไรถึงอันตราย

โรคเรื้อรังที่คนไทยเป็นกันมาก และมีแนวโน้มจะเกิดกับวัยทำงานที่อายุน้อยมากขึ้นอย่างโรคความดันโลหิตสูงแล้วโรคความดันโลหิตสูงอันตรายขนาดไหน หรือในบางคนเคยใช้ เครื่องวัดความดัน แล้วผลออกมาว่าความดันต่ำ แล้วความดันโลหิตปกติจะต้องอยู่ที่เท่าไรวันนี้มาหาคำตอบกันค่ะ ความดันปกติควรอยู่ที่เท่าไร ความดันโลหิตปกติ คือ 120/80-139/89 มม.ปรอท แต่ทั้งนี้ค่าความดันโลหิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ เช่น อารมณ์ ความเครียด ความตื่นเต้น การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่กระตุ้นการบีบตัวของหัวใจ ส่งผลให้แรงดันเลือดเพิ่มสูงขึ้น เป็นเหตุให้ความดันเลือดมีค่าเกินกว่าภาวะปกติชั่วคราว  การวัดระดับความดัน สามารถบอกอะไรเราได้บ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า การวัดระดับความดันโลหิต นั้นสามารถบ่งบอกได้ว่า ร่างกายของเราอยู่ในสภาวะใด เป็นการตรวจวัดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นภาวะความดันโลหิตสูง หรือ ภาวะความดันโลหิตต่ำล้วนส่งผลอันตรายต่อร่างกายของเราทั้งสิ้น เช่น ภาวะความดันโลหิตต่ำ มักเกิดจากการที่ร่างกายของเราอยู่ในสภาวะ ดื่มน้ำน้อย ร่างกายสูญเสียน้ำ หรือเสียเลือด

การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง ว่าสูงหรือผิดปกติหรือเปล่า

              ส่วนหนึ่งที่สำคัญของการดูแลรักษาโรคเบาหวานนั่นก็คือ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการรับประทานอาหารเพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในร่างกายสูงจนเกินไป มีสองวิธีในการวัดระดับน้ำตาลในเลือดนั่นก็คือการใช้ เครื่องมือแพทย์  เครื่องตรวจน้ำตาลด้วยตัวเองที่บ้าน และวิธีที่สองก้คือการตรวจระดับน้ำตาลสะสม (A1C) การตรวจนี้จะต้องทำการตรวจที่สถานพยาบาล ซึ่งจะช่วยบอกระดับน้ำตาลเฉลี่ยในเลือดในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา วันนี้มาพูดถึงการใช้เครื่องวัดน้ำตาลด้วยตัวเองที่บ้านกันค่ะ ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองได้อย่างไร การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด้วยตนเองจะใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลขนาดเล็กพกพาได้ ซึ่งจะใช้เลือกปริมาณเล็กน้อยจากการเจาะปลายนิ้วมือ คุณสามารถหาซื้อเครื่องมือแพทย์นี้ ในตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองและอุปกรณ์ต่างๆ จากร้านขายยาและให้จดบันทึกวัน เวลา และค่าระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจวัดได้ไว้เสมอ และนำผลการตรวจที่จดบันทึกนี้ไปให้แพทย์ดูทุกครั้งที่ไปพบแพทย์ ระดับน้ำตาลที่ถือว่าปกตินั้น ทั่วไปแพทย์จะแนะนำค่าเป้าหมายดังนี้ ระดับน้ำตาลก่อนอาหาร: 80 – 1