ส่วนหนึ่งที่สำคัญของการดูแลรักษาโรคเบาหวานนั่นก็คือ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการรับประทานอาหารเพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในร่างกายสูงจนเกินไป มีสองวิธีในการวัดระดับน้ำตาลในเลือดนั่นก็คือการใช้เครื่องมือแพทย์ เครื่องตรวจน้ำตาลด้วยตัวเองที่บ้าน และวิธีที่สองก้คือการตรวจระดับน้ำตาลสะสม (A1C) การตรวจนี้จะต้องทำการตรวจที่สถานพยาบาล ซึ่งจะช่วยบอกระดับน้ำตาลเฉลี่ยในเลือดในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา วันนี้มาพูดถึงการใช้เครื่องวัดน้ำตาลด้วยตัวเองที่บ้านกันค่ะ
ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองได้อย่างไร
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด้วยตนเองจะใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลขนาดเล็กพกพาได้ ซึ่งจะใช้เลือกปริมาณเล็กน้อยจากการเจาะปลายนิ้วมือ คุณสามารถหาซื้อเครื่องมือแพทย์นี้ ในตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองและอุปกรณ์ต่างๆ จากร้านขายยาและให้จดบันทึกวัน เวลา และค่าระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจวัดได้ไว้เสมอ และนำผลการตรวจที่จดบันทึกนี้ไปให้แพทย์ดูทุกครั้งที่ไปพบแพทย์
ระดับน้ำตาลที่ถือว่าปกตินั้น ทั่วไปแพทย์จะแนะนำค่าเป้าหมายดังนี้
- ระดับน้ำตาลก่อนอาหาร: 80 – 130
- ระดับน้ำตาลหลังอาหาร 2 ชั่วโมง: ต่ำกว่า 180
ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปควรทำอย่างไร
หากตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองแล้วพบว่าสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดสำหรับคุณหรือสูงกว่า 180 นั่นหมายถึงมีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง วิธีหนึ่งในการลดระดับน้ำตาลก็คือการดื่มน้ำแก้วใหญ่ และออกกำลังกายโดยการเดินเร็ว ให้ปรึกษาแพทย์หรือทีมแพทย์ที่ดูแลคุณหากระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่า 3 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ โดยไม่ทราบสาเหตุ
ต้องตรวจบ่อยแค่ไหน : โดยทั่วไปเวลาที่แนะนำให้ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดคือ เมื่อตื่นนอน, ก่อนอาหาร, หลังอาหาร 2 ชั่วโมง และก่อนนอน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยเอง
แหล่งที่มา www.honestdocs.com
Comments
Post a Comment